• 11 กรกฎาคม, 2567
  • 137 เข้าชม

รวมเคล็ดลับการเลือกซื้อคอนโดมิเนียมมือสอง อ่านจบเข้าใจทันที

เมื่อพูดถึงที่พักในย่านทำเลทองหรือใจกลางเมือง หลาย ๆ คนมักจะนึกถึงคอนโดเป็นอันดับแรก แต่ปัญหาคือราคาคอนโดโครงการใหม่ๆ มีราคาค่อนข้างสูง ทำให้คนส่วนใหญ่เลือกมองหาคอนโดที่ราคาถูกลงมาและตั้งอยู่ในทำเลที่ดี นั่นก็คือคอนโดมือสองนั่นเอง
ถึงแม้ว่าราคาและทำเลที่ตั้งเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อคอนโดมิเนียมมือสองก็จริง แต่ก็ไม่ควรมองข้ามประเด็นสำคัญอื่น ๆ เพราะคำว่า 'มือสอง' ย่อมหมายถึง ของที่ผ่านการใช้งานมาแล้วซึ่งอาจจะมีสภาพเสื่อมโทรมบ้างตามอายุการใช้งาน ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจซื้อคอนโดมือสอง จึงจำเป็นต้องพิจารณาความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและข้อที่ควรระวังเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง

 

ทำไมคอนโดมือสองถึงยังเป็นที่นิยมในปี 2024

แม้ในปี 2024 ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะได้รับผลกระทบจากความผันผวนจากภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์โลก แต่คอนโดมิเนียมมือสองก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากปัจจัยสำคัญหลายประการ ดังนี้

  1. ราคาที่เข้าถึงง่ายกว่าคอนโดใหม่ ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ราคาคอนโดมิเนียมมือสองเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ซื้อที่มีงบประมาณจำกัด โดยเฉลี่ยราคาคอนโดมือสองในปี 2024 ถูกกว่าคอนโดใหม่ประมาณ 30-50%
  2. สามารถเข้าอยู่ได้ทันที คอนโดมือสองส่วนใหญ่พร้อมเข้าอยู่ทันทีหลังจากซื้อ โดยไม่ต้องรอสร้างเสร็จหรือตกแต่งเพิ่มเติม ประหยัดเวลาและต้นทุนสำหรับผู้ที่ต้องการย้ายเข้าอยู่อาศัยโดยเร็ว
  3. ใกล้ย่านศูนย์กลางธุรกิจ (Central Business District) และทำเลที่ดี หลายโครงการคอนโดมือสองตั้งอยู่ในทำเลดีท่ามกลางสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เดินทางสะดวก เหมาะสำหรับการพักอาศัย เดินทางไปทำงานและการลงทุน
  4. เป็นตัวเลือกลงทุนในช่วงที่เศรษฐกิจผันผวน การลงทุนในคอนโดมือสองมีความเสี่ยงน้อยกว่า เนื่องจากมีราคาซื้อขายที่ชัดเจน ไม่ต้องรอระยะเวลานานในการรับคืนกระแสเงินสดหากต้องการขาย
  5. ตอบโจทย์ผู้ซื้อยุคใหม่ คนรุ่นใหม่หลายคนเลือกซื้อคอนโดมือสองเนื่องจากต้องการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยในระดับราคาที่สามารถรับได้ ทั้งยังสามารถปรับแต่งได้ตามสไตล์ที่ตัวเองชอบได้อีกด้วย

ด้วยข้อได้เปรียบหลากหลายด้านนี้ คอนโดมิเนียมมือสองจึงยังคงเป็นตัวเลือกที่มีความน่าสนใจอย่างต่อเนื่องในปี 2024 ซึ่งตอบโจทย์กลุ่มผู้ซื้อที่ใส่ใจทั้งปัจจัยด้านราคา ทำเล และโอกาสในการลงทุน
ถ้าหากคุณเริ่มสนใจอยากได้คอนโดมิเนียมมือสองแล้วละก็ พวกเรา SWPAMC ขอแนะนำว่าให้พิจารณาประเด็นที่สำคัญเหล่านี้ด้วยเพื่อที่คุณจะได้คอนโดมือสองที่ถูกใจและคุ้มค่ามากที่สุด

 

สิ่งที่ควรจะต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียมมือสอง

ทำเลและที่ตั้งของคอนโดมิเนียมมือสอง

ทำเลและที่ตั้งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้ซื้อคอนโดมิเนียมมือสองในปัจจุบัน ควรให้ความสำคัญเนื่องจากจะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตและมูลค่าของคอนโดในระยะยาว

ความสะดวกในการเดินทาง

  • ใกล้ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ เช่น รถไฟฟ้า BTS / MRT รถประจำทาง เพื่อลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
  • อยู่ใกล้ทางด่วนหรือถนนสายหลัก ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทาง

ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ

  • สถานศึกษา เช่น โรงเรียน มหาวิทยาลัย
  • สถานพยาบาล เช่น โรงพยาบาล คลินิก
  • ห้างสรรพสินค้า
  • สวนสาธารณะหรือสนามกีฬา
  • สถานที่ราชการต่างๆ เช่น สำนักงานเขต สรรพากรเขต 
  • ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อต่างๆ 
  • อื่นๆ เช่น ตู้ ATM, ปั๊มน้ำมัน เป็นต้น

สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เหล่านี้ จะมีผลอย่างมากต่อการอยู่อาศัยและความพึงพอใจของผู้พักอาศัย ดังนั้นผู้ซื้อจึงควรสำรวจให้ดีก่อนตัดสินใจ

ความปลอดภัยของทำเล-ที่ตั้ง

  • สภาพการจราจร - ควรอยู่ในซอยหรือถนนที่ไม่มีการจราจรคับคั่ง เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและปัญหาการจราจรติดขัด
  • ไม่ควรอยู่ใกล้สถานบันเทิงต่าง ๆ - ทางที่ดีควรจะอยู่ห่างจากสถานบันเทิง อย่างเช่น ผับ บาร์ เพื่อป้องกันปัญหาต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นและเสียงรบกวน
  • ความหนาแน่นของชุมชน - ย่านที่มีชุมชนหนาแน่น มักจะมีความปลอดภัยมากกว่าย่านที่รกร้างหรือถูกทิ้งร้าง ซึ่งจะมีความเสี่ยงต่อการถูกลักทรัพย์หรือก่ออาชญากรรมสูงกว่า ดังนั้นไม่ควรจะเลือกคอนโดมือสองที่มีทำเลเปลี่ยวมากจนเกินไป

 

ตรวจสอบสภาพของคอนโดมือสองและสภาพแวดล้อมของโครงการ

การตรวจสภาพคอนโดมิเนียมมือสองก่อนตัดสินใจซื้อเป็นเรื่องสำคัญมาก เพื่อป้องกันปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง ซึ่งควรตรวจสอบในประเด็นต่อไปนี้

ตรวจสอบอายุของโครงการ

โครงการคอนโดมือสองที่มีอายุมากอาจมีปัญหาเรื่องความทรุดโทรมต่าง ๆ ตามมา  จำเป็นต้องมีการซ่อมบำรุงบ่อยครั้ง ซึ่งจะทำให้ค่าใช้จ่ายสูง ดังนั้นอายุของโครงการจึงเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณา

ตรวจสอบสภาพแวดล้อมของโครงการ

สังเกตรอยร้าวหรือรอยแตกบนผนัง พื้นหรือเพดานของโครงการ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาในเชิงโครงสร้าง ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเพื่อซ่อมแซม รวมถึงตรวจดูสภาพของระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ เช่น ท่อน้ำ ท่อระบายอากาศ ระบบไฟฟ้า ว่ายังใช้งานได้ดีหรือไม่

ตรวจสอบสภาพห้อง

เช็คสภาพวัสดุต่าง ๆ ภายในห้อง เช่น ฝ้าเพดาน พื้น ผนัง ว่ามีรอยร้าวหรือความเสียหายเกิดขึ้นหรือไม่ และควรตรวจดูสภาพเฟอร์นิเจอร์ที่มีอยู่หรือถูก Built-in มากับตัวห้องด้วย  นอกจากนี้อย่าลืมสังเกตพวกกลิ่นอับชื้น เชื้อรา หรือเสียงรบกวนบริเวณรอบ ๆ ห้อง รวมถึงเช็คระบบไฟฟ้า ระบบประปา สุขภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ควรจะต้องทำงานได้ดี ไม่มีปัญหา

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากเจ้าของห้องและนิติบุคคล

เช่น เหตุผลในการขายของเจ้าของเดิม ประวัติและสภาพของคอนโด รวมไปถึงการบริหารงานของนิติบุคคล ซึ่งคล้าย ๆ กับการซื้อรถมือสอง เราก็อยากจะทราบว่ารถคันนี้เคยมีประวัติประสบอุบัติเหตุหรือไม่ สำหรับคอนโดมือสองก็ควรสอบถามจากผู้พักอาศัยคนอื่น ๆ ว่าเคยมีเหตุการณ์ที่ไม่น่าไว้วางใจเกิดขึ้นหรือไม่ อย่างเช่น มีประวัติการโจรกรรม นิติบุคคลทำงานล่าช้า เป็นต้น ซึ่งข้อมูลเหล่านี้อาจเป็นปัญหาต่อการอยู่อาศัยของคุณในอนาคตได้ หรืออย่างในกรณีต้องการขายคอนโดต่อก็จะทำให้หาผู้ซื้อได้ยาก ดังนั้นการสอบถามข้อมูลอย่างละเอียดรอบคอบจึงเป็นสิ่งสำคัญก่อนตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียมมือสอง

 

ขั้นตอนการซื้อขายคอนโดมือสองและเอกสารที่ต้องใช้

การทำสัญญาจะซื้อจะขายคอนโดมือสอง
หลังจากที่คุณมั่นใจแล้วว่าจะซื้อคอนโดมือสอง สิ่งที่ต้องทำต่อมา คือการทำสัญญาจะซื้อจะขาย ซึ่งเป็นสัญญาระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายก่อนจะมีการทำนิติกรรมซื้อขายจริง

โดยสัญญาจะซื้อจะขายต้องมีรายละเอียดสำคัญ ดังนี้

  1. ระยะเวลาซื้อขาย โดยปกติกำหนดไว้ 1-3 เดือน เพื่อให้ผู้ซื้อมีเวลาดำเนินการกู้เงินจากสถาบันการเงิน
  2. จำนวนเงินมัดจำที่ผู้ซื้อต้องวางไว้ และผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
  3. ข้อตกลงห้ามผู้ขายนำคอนโดไปขายให้บุคคลอื่นในช่วงเวลาดังกล่าว

การทำสัญญาฉบับนี้จะช่วยคุ้มครองสิทธิของทั้งสองฝ่าย ดังนั้นทั้งผู้ซื้อและผู้ขายจึงต้องตรวจสอบรายละเอียดให้ดีก่อนลงนามในสัญญา

เตรียมเอกสารเพื่อขอสินเชื่อคอนโดมือสองให้พร้อม

ขั้นตอนสำคัญต่อจากการทำสัญญาจะซื้อจะขายคือการยื่นขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยกับสถาบันการเงิน สำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้เงินสดในการซื้อคอนโดมิเนียมมือสอง การขอสินเชื่อจำเป็นต้องมีการเตรียมเอกสาร ดังต่อไปนี้

  1. สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้ซื้อและผู้ขาย
  2. หนังสือรับรองเงินเดือนจากบริษัท สลิปเงินเดือน 6 เดือนย้อนหลัง
  3. สำเนาโฉนดห้องชุดหรือหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด
  4. สัญญาจะซื้อจะขายที่ได้ทำไว้แล้ว

รายการเอกสารข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่สถาบันการเงินหรือธนาคารต้องการ หากผู้ขอสินเชื่อเตรียมความพร้อมและเอกสารให้ครบถ้วน ก็จะช่วยให้กระบวนการขอสินเชื่อราบรื่นและมีโอกาสได้รับการอนุมัติสินเชื่อสูงขึ้น ซึ่งหลังจากที่ยื่นขอสินเชื่อคอนโดมือสองกับธนาคารหรือสถาบันการเงินแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือทางธนาคารจะส่งเจ้าหน้าที่มาประเมินราคาคอนโดมิเนียมมือสองที่เราจะซื้อ จากนั้นจึงจะพิจารณาอนุมัติสินเชื่อให้กับผู้กู้ ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือน

เมื่อได้รับการอนุมัติสินเชื่อแล้ว ผู้กู้จำเป็นต้องแจ้งให้ผู้ขายทราบโดยเร็ว เพื่อให้ผู้ขายดำเนินการไปปลดหนี้กับทางสถาบันการเงินหรือธนาคารที่ผู้ซื้อได้ทำการขอสินเชื่อเพื่อที่จะซื้อคอนโดมือสองนั้น ๆ 

การโอนกรรมสิทธิ์ความเป็นเจ้าของและค่าใช้จ่ายต่างๆ

เมื่อผลการขอสินเชื่อผ่านและผู้ขายได้ดำเนินการปลดสินเชื่อคอนโดแล้ว ก็มาถึงอีกขั้นตอนสำคัญ ก็คือการโอนกรรมสิทธิ์ความเป็นเจ้าของและส่งมอบกุญแจให้กับผู้ซื้อรายใหม่ ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

ตามที่ระบุในสัญญาจะซื้อจะขาย หากมีการนัดหมายวันโอนกรรมสิทธิ์เอาไว้ เมื่อถึงกำหนด ผู้ซื้อและผู้ขายจะต้องเดินทางไปยังกรมที่ดินในเขตพื้นที่ที่นัดไว้ โดยจะมีเจ้าหน้าที่จากธนาคารหรือสถาบันการเงินที่ทั้งสองฝ่ายขอสินเชื่อ นำเอกสารทางการเงินต่าง ๆ มาให้ลงนาม จากนั้นเจ้าหน้าที่จากสำนักงานที่ดินจะเรียกผู้ซื้อเข้าไปลงนามในเอกสารกรรมสิทธิ์และเจ้าหน้าที่ธนาคารฝั่งผู้ขายจะนำโฉนดที่ดินฉบับจริงมามอบให้กับเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินเพื่อโอนเปลี่ยนชื่อ ให้เป็นชื่อของผู้ซื้อรายใหม่ ซึ่งในขั้นตอนนี้ผู้ขายจำเป็นจะต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ, ค่าธรรมเนียมการโอนและค่าอากรต่าง ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด

หลังจากที่ได้มีการลงนามในสัญญาการโอนกรรมสิทธิ์อย่างถูกต้องแล้ว เจ้าหน้าที่ธนาคารฝั่งผู้ซื้อจะนำเช็คสินเชื่อที่ผู้ซื้อได้ทำการกู้ มามอบให้แก่เจ้าหน้าที่ธนาคารฝั่งของผู้ขาย ซึ่งถือเป็นการจ่ายเงินซื้อคอนโดมือสองอย่างสมบูรณ์

เมื่อดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์และชำระเงินเรียบร้อยแล้ว ผู้ซื้อจะได้รับเอกสารสำคัญต่าง ๆ ได้แก่ สัญญาซื้อขาย (ซึ่งธนาคารจะเก็บสำเนาไว้ 1 ชุด) สำเนาโฉนดห้อง (ธนาคารจะเก็บต้นฉบับไว้) รวมถึงกุญแจห้องหรือคีย์การ์ดจากผู้ขาย

สรุป

จากที่กล่าวไปข้างต้นจะเห็นว่าคอนโดมือสองยังคงเป็นที่นิยมในปี 2024 เนื่องจากมีราคาที่เข้าถึงง่ายกว่าคอนโดใหม่ ประมาณ 30-50% ตั้งอยู่ในทำเลดีใกล้ย่านธุรกิจ เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยและลงทุน แต่ก็ยังมีข้อควรระวังที่ผู้ซื้อต้องพิจารณาปัจจัยสำคัญหลายประการ ได้แก่ ทำเลที่ตั้ง ความสะดวกสบายและความปลอดภัย รวมถึงการตรวจสอบสภาพห้องและสภาพแวดล้อมของโครงการอย่างละเอียดรอบคอบเพื่อให้มั่นใจได้ว่าคุณจะได้คอนโดมือสองที่ถูกใจ คุ้มค่าและตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุด

หากสนใจคอนโดมือสองหรือทรัพย์มือสองอื่นๆ ของบริษัท บริหารสินทรัพย์ เอส ดับบลิว พี เพิ่มเติม สามารถเลือกดูได้ที่
ทรัพย์มือสองทั้งหมด : https://www.swpamc.com/th/assets/ทรัพย์สินทั้งหมด
คอนโดมิเนียมมือสองทั้งหมด : https://www.swpamc.com/th/assets/ทรัพย์สินทั้งหมด/คอนโดมิเนียม
หรือติดต่อผู้เชี่ยวชาญ จากทีม SWPAMC เพื่อขอคำแนะนำหรือคำปรึกษา
ได้ที่เบอร์ 065-520-3474 , 065-520-3475 หรือช่องทาง Line ,Facebook หรือแบบฟอร์มของเรา

แชร์บทความนี้